วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

ธรรมออนไลน์ ตอน : อารมณ์ทำงาน

กิร ดังได้สดับมา

     ชายคนหนึ่งเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปตากอากาศริมทะเลแถวบางแสน ผ่านหมู่บ้านอ่างศิลาที่มีโรงงานแกะสลักหินอยู่จำนวนมาก จึงแวะรถหน้าโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงงานใหญ่และมีคนงานจำนวนมากกำลังสลักหินกันอยู่ เข้าไปในโรงงานเดินชมรูปสลักหินที่วางเรียงรายอยู่ เดินเรื่อยไปจนถึงบริเวณที่ช่างกำลังสลักหินกันอยู่ จึงเข้าไปถามช่างคนหนึ่งซึ่งใช้ค้อนตอกสลักหินด้วยท่าทางขึงขัง หน้านิ่วคิ้วขมวด เหงื่อท่วมตัวว่า "นี่น้อง ทำอะไรน่ะ"
     ช่างคนน้ำตอบโดยไม่เงยหน้าด้วยทีท่าไม่พอใจว่า "ก็กำลัง สลักหินอยู่ ไม่เห็นหรือไง ไม่น่าถาม"
     เขารีบเดินหนีไป ขืนอยู่ตรงนั้นอาจโดนช่างคนนั้นสกัดตัวแทนหินก็ได้




     พบคนต่อมาซึ่งก็เหงื่อท่วมตัว กำลังสกัดหินอยู่เหมือนกัน จึงถามเหมือนคนแรกว่า
     "น้องๆ ทำอะไรอยู่น่ะ"
     "อ๋อ กำลังทำมาหากินอยู่" เขาเงยหน้าตอบแบบไม่แยแส ไม่ยินดียินร้าย
     เดินไปอีกหน่อยเห็นชายกลางคนง่วนอยู่กับสลักหิน เหงื่อท่วมตัว แต่สีหน้ายิ้มแย้มแบบมีความสุข จึงถามว่า
     "พี่ๆ กำลังทำอะไรน่ะ"
     เข้าเงาหน้าตอบอย่างยิ้มแย้มและภาคภูมิตใจ
     "ผมกำลังสร้างโบสถ์ครับ วัดในชลบุรีนี่แหละมาว่าจ้างโรงงานให้สกัดสิงโตเชิงบันไดโบสถ์ ผมงี้ชื่นใจจริงๆ ได้มีโอกาสฝากฝีมือไว้แถมได้บุญด้วย"
     เรื่องก็จบแค่นี้.


เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า

     ในการทำงานทุกอย่างย่อมต้องเหน็ดเหนื่อยเหมือนกันหมด แต่ถ้ามีอารมณ์ในขณะทำงานต่างกัน ผลที่ออกมาก็จะต่างกันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว 

     กล่าวคือในขณะทำงานนั้นหากจิตใจมุ่งไปในทางที่เป็นบุญเป็นกุศล ในทางที่เป็นศิลปะ ก็จะได้ความสุขจากการทำงาน ทำงานอย่างเพลิดเพลิน และได้ผลงานที่ประณีตวิจิตรงดงามเพราะทำงานด้วยจิตที่วิจิตร ผลงานที่ออกมาย่อมทำให้เกิดความสุขและความภาคภูมิใจตลอดชีวิตเมื่อนึกถึง 
     
     ตรงกันข้าม หากว่าทำงานด้วยคิดแต่เพียงจะรับค่าจ้างท่าเดียว ไม่คิดถึงเรื่องผลงาน ผลงานจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้เสร็จๆ ไปเป็นใช้ได้ ก็จะทำงานด้วยอารมณ์บูดตลอดเวลา เมื่อทำงานด้วยจิตที่มีอารมณ์บูดเสียก็จะเหนื่อยเร็ว อยากให้งานเสร็จหรือให้เวลาหมดไปเร็วๆ ทั้งจะไม่มีความสุขในการทำงานนั้นเลย 

     ในการทำงานทุกอย่างนั้นถ้าปรับความคิดให้ชอบงานที่ทำ คิดถึงผลงานมากกว่าผลเงิน และสนุกกับการทำงานได้ ย่อมจะเหนื่อยน้อยลงหรือไม่เหนื่อยเลย.


จากหนังสือ กิร ดังได้สดับมา
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัญฑิต)

3 Comments:

คุณอำนาจ วันจันทร์, มกราคม 11, 2553 2:49:00 หลังเที่ยง  

เป็นแนวคิดที่น่าสนใจจริงๆครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานมากๆ เอามาฝากอีกนะครับ

ไม่ระบุชื่อ วันจันทร์, มกราคม 11, 2553 9:47:00 หลังเที่ยง  

ชอบบทความ "100 คนคิด 10 คนทำ 1 คนสำเร็จ" อ่ะ

wun_sweetmillion วันพฤหัสบดี, มกราคม 14, 2553 9:58:00 ก่อนเที่ยง  

อารมย์ดี บรรยากาศก็จะดี อะไรๆ ก็จะดีตามมา ^^